จากหนังสือเมล็ดพันธุ์แห่งปรีชาญาณ

กษัตริย์องค์หนึ่งตรัสเรียกข้าราชบริพารและบรรดาผู้วิเศษของราชอาณาจักรมาเข้าเฝ้า และตรัสแก่พวกเขาว่า

"ข้าอยากจะเป็นแบบฉบับแก่ประชากรของข้าเสมอ ข้าอยากจะเป็นผู้ที่กล้าหาญเข้มแข็ง สงบ และไม่หวั่นไหว ต่อหน้าปัญหาความยุ่งยากต่างๆ ในชีวิต บางครั้งข้ารู้สึกเศร้าเสียใจจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และก่อนหน้านี้ ความดีใจที่ไม่คาดผันหรือความสำเร็จยิ่งใหญ่ ก็มาทำให้ข้าอยู่ในสภาพที่ยินดีจนเกินขอบเขต ข้าไม่พอใจกับความรู้สึกเหล่านี้ ข้ารู้สึกเหมือนกิ่งฟางที่ล่องลอยไปตามสายน้ำ เพราะฉะนั้นพวกท่านจงไปหาเครื่องรางของขลังมาให้ข้าป้องกันตัวจากสภาพจิตใจ และอารมณ์ที่ไม่คงที่นี้ที"

บรรดาผู้วิเศษทั้งหลาย คนแล้วคนเล่าต่างปฏิเสธ พวกเขารู้วิธีการผลิตเครื่องรางของขลังทุกประเภท สำหรับให้แก่คนตกทุกข์ได้ยากที่มาขอจากพวกเขา แต่จะทำให้กษัตริย์ผู้ทรงเข้มงวดพระองค์นี้พอพระทัยได้อย่างไรเล่า ยิ่งกว่านั้น พวกเขาจะต้องหาเครื่องรางที่มีฤทธิ์ไม่เสื่อมคลายด้วย

กษัตริย์ทรงกริ้วจนแทบจะทรงระเบิดออกมา แต่แล้วปราชญ์อาวุโสผู้หนึ่งก็กล่าวขึ้นว่า "พระเจ้าข้า พรุ่งนี้ข้าพระองค์จะนำแหวนวงหนึ่งมาทูลถวาย ทุกครั้งที่ทอดพระเนตรแหวนวงนี้ ความเศร้าพระทัยจะกลายเป็นความชื่นชมยินดี และถ้าพระองค์รู้สึกกระวนกระวาย พระองค์ก็จะทรงสงบลง ขอเพียงให้พระองค์อ่านประโยควิเศษที่จารึกอยู่บนแหวนวงนี้"

วันรุ่งขึ้นปราชญ์ผู้นั้นกลับมา ทุกคนเงียบงันเพราะอยากรู้ว่า ประโยควิเศษนั้นคืออะไร เขาทูลถวายแหวนวงนั้นแด่กษัตริย์ตามที่สัญญาไว้ กษัตริย์ทอดพระเนตรแหวนวงนั้น และอ่านคำที่จากรึกบนรอบวงแหวนนั้นได้ว่า "สิ่งนี้จะผ่านพ้นไปเช่นกัน"

"ในชีวิตมนุษย์ มีเวลาสำหรับทุกสิ่ง และสำหรับทุกโอกาสที่เหมาะสม...สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และสิ่งที่จะเกิดขึ้น....ทุกสิ่งจะผ่านพ้นไป พระเจ้าไม่ทรงหวั่นกลัวสิ่งใดเลย" (ปัญญาจารย์ 3,1.15)