ชมรมผู้อาวุโส วัดแม่พระกุหลาบทิพย์

กระดูกพรุน

ปัจจุบันโรคกระดูกพรุน ( osteoporosis ) ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนนับล้านคน มีปัญหากระดูกอ่อนแอลงโดยไม่เจ็บปวดหรือไม่รู้สึกตัว หญิงวัย 50 ปีขึ้นไป ทุก 1 ใน 3 คนเกิดกระดูกพรุน แม้ชายจะเป็นน้อยกว่าหญิง แต่เหยื่อของกระดูกพรุนเป็นชายมากกว่า

ลักษณะกระดูกพรุน คือ กระดูกที่เคยแข็งแรงเมื่อวัยหนุ่มสาว เนื้อกระดูกบางลงจะค่อยๆ บางลง และเปราะหักง่าย ภายในเนื้อกระดูกมีลักษณะอ่อนตัวและพรุนคล้ายฟองน้ำจึงขาดความแข็งแรง อุบัติเหตุจึงเกิดง่ายๆ ที่ข้อมือใช้ทำงาน ที่กระดูกสันหลัง และที่กระดูกสะโพกหรือเอว เมื่อเกิดแล้วจะปวดเจ็บเมื่อเคลื่อนไหว ทำงานไม่ได้ เดินไม่ได้ ช่วยตัวเองไม่ได้ และต้องให้ลูกหลานช่วยพยุงหรือพานั่งรถเข็นไป

สถิติชี้ว่าโรคนี้เกิดทั่วโลกและ องค์การอนามัยโลกคาดว่าในกลางศตวรรษนี้จะเพิ่มเป็นสามเท่าตัวหรือ 300 %

กระดูกของเด็กยืดโตเรื่อยๆ จนวัยหนุ่มสาว และค่อยชะลอลง จนหยุดพัฒนาขนาดและความแข็งแรงที่อายุประมาณ 35 ปี หลังจากนี้กระดูกจะถูกดึงออกและสูญเสียเนื้อกระดูกไปทีละน้อยๆ โดยเฉพาะหญิงที่หลังหยุดประจำเดือน (menopause) ซ้ำร้ายกว่านั้นคือนิสัยการดำรงชีวิตของคนยุคนี้จำนวนมาก มีส่วนเปิดโอกาสให้กระดูกพรุนเร็วกว่าคนในยุคบรรพบุรุษ

 

ส่วนประกอบของกระดูกเป็นสารแคลเซียมและสารฟอสเฟท เหล้าและบุหรี่ ลดการดูดซึมแคลเซี่ยม เมื่อต้องการแคลเซี่ยมในการเจริญชีวิต ร่างกายจึงไปดึงแคลเซี่ยมมาจากกระดูกของเราเอง การตรวจเลือดไม่ช่วยบ่งชี้ว่าขาดแคลเซี่ยมหรือค่าต่ำ เพราะสมดุลร่างกาย

สารคาเฟอีน ในเครื่องดื่มชูกำลัง (ชั่วประเดี๋ยวเดียว) ต่างๆ ( วันละหลายขวด) เช่น กระทิงแดง เอ็มร้อย ชาเขียวสารพัดยี่ห้อ(ทุกมื้อ ทุกเวลา) กาแฟ ชาร้อน(วันละสี่ห้าถ้วย)

มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ข้อเสียคือกระตุ้นให้ร่างกายดึงแคลเซียมออกมามากขึ้น

การกินอาหารประเภทโปรตีน (เนื้อแดง) ที่มีฟอสเฟทสูง ไปดึงแคลเซียมจากกระดูก ออกมาใช้(คู่ฟอสเฟท) อาหารเค็มจัดมีเกลือโซเดียมคลอไรด์ เกลือไปดึงแคลเซียมจากกระดูก ออกมาใช้(คู่คลอไรด์) แล้วขับส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการคือ คู่แคลเซียมออกทางปัสสาวะ นับว่าอาหารโปรตีน และเกลือเป็นโจรหลอกล่อและยักยอกเอาเแคลเซียมไปจากกระดูกทุกวัน เราจึงต้องกินโปรตีนแต่พอดี (ใครเคยสังเกตร้านอาหารเนื้อย่าง ไดโดมอน ที่วางกระดาษรองโต๊ะ และอ่านคำเตือน ให้กินผัก ) และอาหารไม่เค็มจัด คู่กับเนื้อหรือ โปรตีน คือเราต้องกินผัก เพราะผักใบเขียว และผลไม้ ถั่วต่าง มีแคลเซียมสูง เราเพิ่มแคลเซียมให้ ร่างกาย เพื่อโปรตีนและเกลือจะได้ใช้แคลเซี่ยมส่วนที่กินนี้ โดยไม่ต้องการ

แคลเซี่ยมจากกระดูกหรือไม่ไปดึงแคลเซียมจากกระดูก ทำเป็นนิสัยเรื่อยๆ ไป เราจะป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ วิธีกินอาหารให้ครบหมู่แบบง่ายๆ คือ ในจานอาหาร 1 จาน ให้เป็นคาร์โบไฮเดรทหรือข้าวครึ่งจาน หนึ่งในสี่ของจานเป็นเนื้อสัตว์ และ อีกหนึ่งในสี่ของจานเป็นผัก

ได้มีรายงานวิชาการแล้วคนในเอเชียเป็นกระดูกผุน้อยกว่าคนในยุโรปและอเมริกาเพราะผลจากนิสัยการกินเนื้อน้อยและกินผักมาก คนเอสกิโมกินแต่เนื้อปลาและแมวน้ำเป็นโรคกระดูกผุกันมาก คนแอฟริกาในอเมริกาเป็นโรคกระกระดูกผุมากกว่าคนแอฟริกาในทวีปแอฟริกา(ซึ่งกินธัญพืช) ดังนั้นโรคกระดูกผุจึงไม่ใช่โรคทางกรรมพันธุ์หรือยีนส์ของเผ่าพันธุ์ แต่เป็นเพราะนิสัยการกินเนื้อมากกว่าพืชผัก

ข่าวล่าสุดในเมืองไบร์ตันของอังกฤษ ประกาสทุกโรงเรียนห้ามจำหน่ายฟ้าสท์ฟูด เช่น แฮมเบอเกอร์ ฮอทดอก เฟร้นฟรายด์ และน้ำอัดลม ป้องกันโรคอ้วน โรคหลอดเลือด แต่ในผู้ใหญ่จะป้องกันโรคกระดูกพรุนด้วย นิสัยการกินอาหารของคนอเมริกันพบว่ากินโปรตีนฟ้าสท์ฟูดมากเกินกว่าปกติ ( ปกติ WHO กำหนดวันละ ครึ่ง ขีด หรือ 50 กรัม ) คือกินประมาณ 185 กรัม และนักโภชนาการแนะนำให้กินยาแคลเซียมเม็ด 800 - 1500 มิลลิกรัมต่อวัน

คนไทยเรามีผักผลไม้เพิ่มแคลเซี่ยมแทนยาและดีกว่ายาเพราะไม่มีอันตราย เพราะเราไม่อาจทราบแน่ชัดว่าเราต้องกินยาเท่าไรจึงจะพอดี ยาแคลเซี่ยมที่มากเกินอจตกผลึกในเลือดและทำให้เกิดนิ่วแคลเซียมออกซาเลทที่ไต ( ปัสสาวะออกมาเป็นเลือดสีแดง)

หากเป็นไปได้คือกินโปรตีนจากถั่วและผักเพิ่มแทนโปรตีนเนื้อสัตว์ เพราะถั่วและผักมีโปรตีนขนาดปานกลาง ไม่สูงมากเหมือนเนื้อสัตว์ เป็นการป้องกันโรคกระดูกผุที่ปลอดภัยกว่า

แนะนำผู้สูงอายุ ในการออกกำลังในขณะแสงแดดอ่อนยามเช้า และบ่ายแก่ๆ เป็นสัญญานเรียกร้องร่างกาย ให้เสริมกำลังกระดูกตามธรรมชาติ และกระดูกปรับตัวเพิ่มแคลเซียมโดยมีวิตามิน D เร่ง และกล้ามเนื้อที่ขยับตัว เลือดที่ไหลเวียนและการสูบฉีดเลือดด้วยกล้ามเนื้อหัวใจที่แข็งแรง เสริมด้วยอาหารครบหมู่ที่เป็นพลังงานของเซลและเนื้อเยื่อ

และสูดอากาศออกซิเจนบริสุทธิ์จากต้นไม้ วันละประมาณ ครึ่งชั่วโมง อาหารครบหมู่มีแคลเซียมเก็บออมไว้เป็น ธนาคาร

และอย่าลืมป้องกันโจรที่จะมาขโมยแคลเซียม เช่น บุหรี่ เหล้า เครื่องดื่ม คาฟอีน เกลือ และความเกียจคร้าน นั่งๆนอน(ดูทีวี)ทั้งวัน

ผู้อาวุโส หมั่นสวดภาวนาและปฏิบัติคุณงามความดีต่อทุกคนในบ้าน ในที่ทำงาน ในสังคมของท่าน(เพื่อนบ้าน) โดยไม่ย่อท้อ “ พระผู้เป็นเจ้านำทางท่านเสมอ พระองค์พอใจจิตวิญญาณของท่านในท่ามกลางความแห้งแล้งลำบาก มันจะทำให้กระดูกของท่าแข็งแรง และชุบชูท่านประดุจสวนที่ชุ่มฉ่ำน้ำ และเหมือนน้ำพุที่พวยพุ่งอยู่ไม่ขาดสาย ” ประกาศกอิสยา 58:11