"คนทั้งหลายที่ฟังพระวาจาของพระเจ้า
และปฏิบัติตามย่อมเป็นสุขกว่านั้นอีก" (ลูกา 11:28)
เเราทุกคนเป็นหนี้บุญคุณครูสองคนแรกของเรา คือ
"คุณพ่อและคุณแม่" ทั้งนี้มิได้เกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่า
เรามีหน้าตาเหมือนกับท่าน แต่เพราะท่านเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
กับความสุขและความทุกข์ของเรา เมื่อเรายังเยาว์วัย รวมทั้งทัศนคติของเรา
คุณค่าชีวิตแบบฉบับของคุณพ่อคุณแม่ ทั้งหมดนี้นับว่ามีอิทธิพลมากต่อชีวิตของเรา
แม้ว่าเราอาจจะไม่คิดเหมือนกับท่าน เมื่อเราเติบโตขึ้นแล้วก็ตาม แต่ในเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อของเราแล้ว
คุณพ่อคุณแม่เป็นครูสองคนแรกของเราจริงๆ
เราอาจจะไม่ทราบว่าพระนางมารีย์ พระมารดาของพระเยซูเจ้า มีอิทธิพลมากเพียงใดต่อพระองค์
แต่ในช่วงที่ทรงพระเยาว์นั้น เป็นเวลาแห่งการที่พระองค์ทรงเรียนรู้และทรงฝึกฝน
พระองค์ได้รับตัวอย่างที่ดีจากพระมารดา และจากการที่พระนางปฏิบัติตนต่อผู้ที่อยู่รอบด้าน
พระองค์จะเรียนรู้จากเรื่องต่างๆ ซึ่งพระนางเล่าให้พระองค์ฟัง รวมทั้งการสวดภาวนาต่างๆ
ด้วย จึงไม่เป็นการแปลกเลย ที่สตรีผู้หนึ่งในฝูงชน ซึ่งได้เห็นคุณสมบัติอันดีงามต่างๆ
เหล่านี้ในพระองค์ ซึ่งตัวพระนางเองก็คงจะเป็นมารดาด้วย จึงร้องออกมาว่า
"หญิงที่ให้กำเนิดท่าน ช่างเป็นสุขจริง"
สิ่งที่น่าประหลาดใจ ก็คือพระดำรัสตอบของพระเยซุเจ้า "ผู้ที่ฟังพระวาจาของพระเจ้า
และปฏิบัติตามย่อมเป็นสุขกว่านั้นอีก" พระดำรัสนี้มิได้เป็นการลดความสำคัญของพระมารดามารีย์
และบทบาทของพระนางในชีวิตของพระเยซูเจ้าเลยแม้แต่น้อย
พระนางมารีย์เป็นพระมารดาของพระองค์ แต่พระนางก็ยังเป็นอีกบุคคลหนึ่ง
ซึ่งพร้อมที่จะรับฟังพระวาจาของพระเจ้าและนำไปปฏิบัติ นี่คือสิ่งหนึ่งซึ่งพระนางได้กระทำตลอดชีวิตของพระนาง
เพราะพระนางได้รับเชิญให้มีส่วนในแผนการไถ่กู้ของพระเจ้า และนี่คือสิ่งที่ผู้ปรารถนาจะเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าได้รับเชิญให้นำไปปฏิบัติ
บทอฺธิษฐานภาวนา
ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอโมทนาคุณพระองค์ สำหรับการเป็นประจักษ์พยาน
และแบบอย่างของพระนางมารีย์
ผู้พร้อมที่จะมอบทุกสิ่งเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จไป
พวกลูกทั้งหลายวอนขอพระองค์
ได้ทรงโปรดให้ลูกเปิดใจรับฟังพระวาจาของพระองค์
และตอบสนองด้วยสิ้นสุดจิตใจ
ดังเช่นพระนางด้วยเถิด อาแมน